Facebook Make Post
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

แผนซ้อนแผน

Go down

แผนซ้อนแผน  Empty แผนซ้อนแผน

ตั้งหัวข้อ  Admin Sat Jul 07, 2012 2:05 am

ช่วงที่เกิดเหตุการณ์นี้ ผมเองไม่ได้รู้ไอ้เรื่องที่ว่าชอบโชว์อะไรมากนักหรอก แต่หลังจากนั้นประมาณ 2-3 ปี รู้สึกตัวเองโตขึ้น เรียบเรียงลำดับความรู้สึกเมื่อสมัยก่อน จึงรู้ว่าที่ผ่านมาคือความรู้สึกที่แสนประทับใจ

เรื่องของเรื่องคือ ไม่ค่อยมีคนอยู่บ้าน อยู่กับอาทั้งสองซึ่งมีอาชีพรับจ้าง ซึ่งมีลูกชายคนเดียว วัยเดียวกับผม จริง ๆ เค้าอายุมากกว่าผมปีเศษ ๆ แต่ด้วยความสนิทสนมกัน เล่นด้วยกัน จึงเสมือนกับเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกัน แต่พอเรียนจน ป.6 เค้าก็เข้าไปเรียนต่อที่กรุงเทพ จึงคงเหลือแค่อากับผม อยู่กันแค่ 3 คน

อาทั้งสองต้องออกจากบ้านไปทำงานตอนสาย ๆ กลับมาอีกทีก็ช่วงประมาณหัวค่ำ ไม่ค่อยหยุด บางทีวันอาทิตย์ก็ยังต้องออกไปทำงานเลย ผมเองก็ยังเรียนอยู่ที่ในอำเภอนี่แหละ ปีสุดท้ายแล้ว และก็ได้เรียนต่อ ม.1 ที่นี่แหละ ไม่มีเงินส่งไปเรียนในกรุงเทพ

ช่วงปิดเทอมก่อนเข้าเรียนต่อชั้น ม.1 ได้มีโอกาสไปกรุงเทพ เป็นครั้งแรกในชีวิตเลยแหละ ที่นี่ เจ้าชัย (ลูกของอา) มาอยู่กับญาติของทางอาผู้หญิง ที่นี่ก็เป็นบ้านชั้นเดียว แต่มีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง ที่นี่คนอยู่กันเยอะครับ คือใครที่เข้ามาเรียนต่อในกรุงเทพ ส่วนใหญ่ก็มาพักกันที่บ้านนี้แหละ ที่ผมมานับรวมได้ก็ 13 คนโน่นแหนะ รวมผมก็เป็น 14 คน

ต้องอธิบายหน่อยนะ มีผู้ใหญ่จริง ๆ แค่ 3 คน คืออาผู้หญิง อาผู้ชาย แล้วก็น้องชายของอาผู้ชายทำงานนอกบ้าน เงินเดือนเรียกว่าค่อยข้างเยอะทีเดียวแหละ อยู่นี่ได้กินขนมทุกวันเลย แถมยังได้ของเล่นอีกเยอะแยะ แล้วก็เป็นรุ่นเรียนช่วง ม.ปลาย พาณิชย์ อีก 3 คน เป็นผู้หญิงหมด ที่เหลืออีก 5 คน หญิง 3 ชาย 2 ก็เป็นช่วง ม.ต้นเนี่ยแหละ เหลืออีก 2 คนเป็นผู้หญิงยังเด็กอยู่เลย เรียนอยู่ ป.1 กับ ป.2

ผมมาบ้านนี้ มีเพื่อนเล่นเป็นผู้ชายรวมผมก็ 3 คน จริง ๆ สักพักนึงก็สนิทกันหมดแหละ เล่นด้วยกันหมด แต่ที่เล่นกันพิเรน พิเรน ก็คงหนีไม่พ้นเจ้าเด็กอย่างผมทั้งสามคน

เลยบ้านออกไปนิด ขี่จักรยานไป เดินไปก็ได้ จะมีบึงน้ำ ก็ค่อนข้างกว้างนะ พวกผมสามคนชอบไปเล่นน้ำกัน โดนดุ โดนตีบ่อย แต่ก็ยังไม่วายต้องหนีออกไปเล่นน้ำกัน ด้วยความที่เป็นเด็กบ้านนอก ก็สบาย ๆ แก้ผ้าเล่นกันเลย ไม่อายหรอกนะ กับเจ้าชัยก็เล่นกันมาตั้งแต่เด็ก แก้ผ้าเล่นมาด้วยกันตั้งนานแล้ว ส่วนพี่โมทย์ก็ขึ้น ม.3 เป็นรุ่นพี่ 2 ปี แต่ไม่ได้เรียกว่าพี่กัน เรียกกันแบบรุ่นเดียวกันเลย เท่าที่ลำดับความได้ จริง ๆ รุ่นเจ้าชัยกับโมทย์ พูดถึงว่าน่าจะมีขนขึ้นกันแล้วนะ แต่ก็ไม่เห็นมีกันเลย คือพอโตขึ้นมาแล้วนึกถึงตอนนั้นแล้วก็ตลกดีเหมือนกัน แต่เรื่องจริง คือไม่เห็นมีใครมีขนขึ้นกันนะ

สนุกกันใหญ แก้ผ้าเล่นน้ำกันเพลินเลย เล่นกันทีโน่นแหละ 2-3 ชั่วโมง มีเหมือนกันนะ รอบ ๆ บึง พอแดดเริ่มหมด หนุ่มสาวแถวนั้นก็มานั่งเล่นกัน ไอ้เรารึวิ่งแก้ผ้าโทง ๆ กระโดดน้ำแข่งกัน แก้ผ้าปีนบนต้นไม่แล้วกระโดดลงมา ไม่ได้คิดสนสายตาใคร รึว่าใจเรายังเป็นเด็กอยู่มั้ง นึกถึงแล้วก็เขินเหมือนกันนะ

บอกตามตรง ไม่รู้จักหรอก ไอ้เรื่องชักว่าว ไอ้เรื่องเอากัน ตอนนั้นรู้อย่างเก่งก็ผู้หญิงผู้ชาย มองออกรู้ว่าเป็นหญิงหรือชายก็พอแล้ว ไม่ได้มานึกถึงเรื่องที่ลึกกว่านี้เลย แต่แล้วเจ้าโมทย์ก็ชวนเล่นพิเรน มันบอกว่าจับเล่นไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวมันก็จะใหญ่ขึ้นเอง แล้วมาดูกันว่าของใครจะใหญ่กว่ากัน ลองทำดูแล้ว ตอนนั้นก็ไม่เห็นจะใหญ่ขึ้น แต่เจ้าชัยสิ มันทำขึ้น ของมันใหญ่กว่าของเจ้าโมทย์ซะอีก (แต่มารู้ตอนหลัง แต่ละคนไอ้ที่ว่าใหญ่น่ะมันยังไม่เท่าไหร่ หมายถึงยังต้องโตขึ้นกว่านี้อีก วัยนั้นมันก็ใหญ่แค่นั้นแหละ)

ไปเล่นน้ำกัน นอกจากเล่นน้ำ กระโดดน้ำอะไรตามปกติแล้ว ก็ยังไม่ลืมที่จะเล่นไอ้จู๋อยู่เรื่อย มีเหมือนกันนะที่เด็กผู้หญิงจะตามมาเล่นน้ำกันด้วย แต่พี่น้อย พี่ฟ้าก็ต้องตามมาคอยดูแล ไอ้เด็กหน่อยก็แก้ผ้าเลย โตหน่อยใส่แขนสั้นขาสั้น อย่างเก่งก็ถอดเสื้อ ไอ้เรารึ ถอดตลอด มีเหมือนกันที่เจ้าโมทย์ใส่กางเกงในบ้าง มันคงอายมันมั้ง เพราะมันมีพี่กับน้องสาวมันอยู่ด้วยเหมือนกัน แต่เรื่องจริงนะ ผมเองไม่ได้คิดอะไรเลย ไม่มีความรู้สึกไอ้เรื่องเพศเลย รู้อย่างเดียวว่าสนุกมาก (แม้ว่าขากลับจะต้องเสี่ยงกับการโดนตี)

ช่วงที่เด็กที่บ้านมาด้วย บางครั้งก็รู้สึกเหมือนกัน ตอนที่ต้องขึ้นฝั่งแล้วไปนั่งกินขนมในกลุ่ม บางครั้งก็นั่งยอง ๆ (ตอนนั้นไม่มีเจตนาจะอวดอะไรใครนะ) หยิบขนมเข้าปากชิ้นนึง ถือไว้ในมือชิ้นนึง ขึ้นต้นไม้บ้าง โดดลงน้ำบ้าง คนอื่นก็เงี๊ยแหละ วิ่งขึ้นกินขนม โดดลงน้ำ แล้วก็ขึ้นไปอีก หัวเราะสนุกดี เหมือนกับขึ้นไปเติมน้ำมัน แล้วก็บรื้น ๆ ลงน้ำ มีพลังงานเล่นต่อไป เหนื่อยนักก็ขึ้นฝั่งนานหน่อย มีแซวเหมือนกัน พี่ฟ้าบอกโตเป็นหนุ่มแล้วยังแก้ผ้าอยู่อีก พูดเรื่องพวกนี้ทีไร เป็นต้องหัวเราะสนุกสนานกัน พลางมองมายังไอ้จู๋ของผมกับพวก ก็แซวกันน่ะนะ อะไรสนุก ก็ทำกันไป

ได้ยินคำว่า “ชักว่าว” ครั้งแรกก็ที่นี่แหละ พี่น้อย พี่ฟ้าคุยกัน พูดถึงพวกผมว่าโตกันจนชักว่าวได้แล้ว ยังแก้ผ้าโทง ๆ กันอยู่อีก แล้วก็ขำกันใหญ่ คุยกันซะออกรสออกชาติเลยนะ (ยิ่งโตแล้ว ผมก็ยิ่งเข้าใจว่าคุยเรื่องพวกนี้สนุกที่สุดเลย) ผมได้ยินก็อะไรวะชักว่าว ว่าแล้วก็โดดลงน้ำเหมือนเดิม สนุกเหมือนเดิม ไม่ได้คิดอะไร

มีวันนึง นึกขึ้นได้ ก็เลยถามเจ้าชัยว่าอะไรวะชักว่าวเนี่ย เจ้าชัยก็เลยถามโมทย์ให้ จริง ๆ มันก็พอรู้แหละ แต่มันอายมันมั้ง เจ้าโมทย์ก็บอกว่า เดี๋ยวมีโอกาสจะพาไปดู จนช่วงเย็น ๆ ของวันนึงมันก็ชวนกันไป ขี่จักรยานไปก็ไกลเหมือนกันนะ เป็นบ้านเพื่อนของโมทย์อีกทีนึง ลืมแล้วล่ะว่ามันจะพาไปดู เล่นกันบนดาดฟ้าชั้นสองของบ้านเพื่อนนานเหมือนกัน สักพักมันก็เรียกให้ไปดู ไปดูกันหมดเลยสี่คน ไปดูตรงหน้าต่างชั้นสอง เป็นเพิงบ้านพักคนงานก่อสร้าง เค้าจะก่อบ่อสำหรับตักอาบขนาดใหญ่ เป็นที่โล่ง ไม่มีประตู มีแค่สังกะสีบังด้านถนนแค่นั้นเอง หนุ่มวัยรุ่นคนนึงก็โตแล้วล่ะ ใส่กางเกงในอาบน้ำ เพื่อนบอกเดี๋ยวได้ดูแน่ แล้วจะได้รู้ว่าเค้าทำกันยังงัย ก็เห็นเขาอาบน้ำ สระผม อาบเสร็จก็เห็นเขาถอดกางเกงในออกมาซัก เห็นขนขึ้นด้วย ซักกางเกงในยังไม่เสร็จดี เขาก็มองซ้าย มองขวา แล้วก็จับไอ้จู๋ของเค้า จับไปจับมา เอาแล้วใหญ่ขึ้น ใหญ่ขึ้น พอใหญ่แล้วก็ชักเลยครับ “ชักว่าว” (ยิ่งโต ยิ่งเข้าใจ อ๋อ นี่เองคือชักว่าว) ตอนนั้นก็แปลกตาดีเหมือนกัน หันมองหน้ากันแล้วก็แอบหัวเราะเบา ๆ เห็นทำไม่นานหรอก แป๊บเดียวก็นุ่งผ้าเดินออกไปแล้ว

วัยนั้น ภาพที่เห็นมันก็ติดตามานะ ตอนนั้นคิดว่าเดี๋ยวโตขึ้น พอมีขนเยอะ ๆ มันก็คงจะใหญ่ขึ้นตามวัยเองแหละ

แต่เปล่าเลย ตอนอาบน้ำที่บ้านก็ลองจับ ๆ ลองทำดู อาบก็เข้าไปอาบคนเดียว แต่ก่อนยังอาบด้วยกันทั้งสามคน คือที่บ้านนี้ ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำของผู้ใหญ่มีส่วนตัวอยู่แล้ว ส่วนห้องส้วม ห้องอาบน้ำส่วนรวมจะอยู่หลังบ้าน แยกเป็นอีกอิสระ พอเปิดประตูหลังบ้านออกก็เป็นส่วนของซักล้าง เป็นซักผ้ากับพื้น มีตุ่มใส่น้ำ 5 ตุ่มเรียงกันอยู่ เดินตรงไปก็เป็นห้องส้วมอยู่ประตูด้านขวา ถ้าจะอาบน้ำก็ประตูซ้าย ห้องน้ำที่นี่มิดชิดดี มีหลังคาแต่เปิดโล่งช่วงกำแพงกับหลังคาให้อากาศถ่ายเทได้ดี

ปกติเราเด็กผู้ชายสามคน ส่วนมากจะอาบกันตรงหน้าห้องอาบน้ำนั่นแหละ มีน้ำให้ตักอาบเยอะดี แถมกว้างพอที่จะหยอกเล่นกันด้วย เรื่องอายน่ะเหรอ อย่างที่บอกแหละ ไม่คิดเลย

แต่หลังจากได้ดูภาพเหตุการณ์นั้นมา ผมเริ่มปลีกตัวไปอาบคนเดียวบ้าง อาบในห้องน้ำบ้าง ส่วนถ้าอาบพร้อมกัน พออาบเสร็จก็จะอ้างเข้าไปอาบต่อในห้องอาบน้ำ จะทำอะไรซะอีกล่ะ มันก็ได้ผลเหมือนกันนะ จับไปจับมามันก็ใหญ่ขึ้น เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาเหมือนกัน ลองชักเข้าชักออก มันก็สนุกดีนะ เสียว ๆ ดี อย่างว่าทำนานได้ที่ไหนล่ะ คนอยู่กันเยอะแยะ

ติดใจนะ ว่างเป็นไม่ได้ ต้องลองทำอยู่เรื่อย ไปเล่นน้ำที่บึงยิ่งสนุก ตอนอยู่ในน้ำก็จับเล่นไปเรื่อย อยู่ในน้ำ มันอิสระอยู่แล้วจะหันซ้ายหันขวา จะไปหน้าไปหลัง สะดวกไปหมด เวลาตอนที่มันพอง ๆ นี่ ผมไม่กล้าขึ้นจากน้ำเลยนะ มันอาย ๆ ยังงัยไม่รู้ แต่พอคนโล่ง ๆ ก็ลองวิ่งขึ้นบก เดินเล่นก่อนโดดลงน้ำ มันก็สนุกดีนะ รู้สึกเสียว ๆ ดี

และแล้วความรู้สึกถึง “จุดสุดยอด” ก็เดินทางมาทำความรู้จักกับผม

ผมตื่นมาแต่เช้าเลยครับ เรียกว่ายังมึดอยู่เลย รู้สึกปวดท้อง เลยลุกมาเข้าห้องน้ำ ความที่เป็นคนกลัวผีเป็นทุนเดิมระดับนึงอยู่แล้ว บวกกับความที่แปลกสถานที่ ถึงไม่จะมีคนอยู่กันเยอะก็เถอะ แปลกนะไม่คิดที่จะปลุกใครมาเป็นเพื่อนเลย ทีนี้ไม่รู้ทำอีท่าไหน ไอ้กางเกงที่ใส่อยู่ มันไม่ยอมหลุดออกจากเอวได้ทันท่วงที ก็เลยเกิดภาวะขี้แตกเต็มกางเกง ไม่เป็นไร เอาที่เหลือก่อน รีบแล้วนะเนี่ย ประตูห้องน้ำก็ไม่ได้ปิด ชั่วโมงนี้ไม่สนแล้ว พอประมาณว่าคงหมดท้องแล้ว ที่เหลือก็จัดการกับเจ้ากางเกงตัวนี้ซะก่อน ก่อนที่จะโดนล้อ ไม่รู้เป็นอะไร วัยนี้ ไอ้เรื่องขี้เนี่ย ล้อกันจังเลย ตอนนอนผมใส่กางเกงตัวเดียวนอนนะ ใคร ๆ ก็อย่างนี้แหละ ร้อนออกอย่างนี้ เสื้อไม่ใส่ ทีนี้ไอ้ตอนที่เอากางเกงซักร่องรอยอารยธรรมออกเนี่ย เราก็ล่อนจ้อนอยู่ เพราะไม่ได้ใส่กางเกงในนอนอยู่แล้ว

ด้วยความโล่งของบรรยากาศ สถานที่ และผู้คน จึงทำให้เสมือนโลกทั้งใบนี้ ชั่วโมงนี้ มีเพียงผมคนเดียวเท่านั้น ไม่ได้นึกถึงใครเลยจริง ๆ นะ อยู่ ๆ มันก็นึกไปถึงความสนุก ซักยังไม่เสร็จดี ก็เลยจับเล่น จับไปจับมา ใหญ่แล้ว ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ เร็วเหมือนกันนะ แป็บเดียวเองใหญ่แล้ว ทีนี้มันก็เพลินนะสิ ทำไม่หยุดเลย ยิ่งทำยิ่งมัน สักพัก ก็รู้สึกเหมือนได้ปลดปล่อย ตัวเบา รู้สึกโล่ง ๆ สบายตัวยังงัยไม่รู้ บอกไม่ถูก มีน้ำออกมาด้วยครับ เสร็จแล้วก็รีบครับ กางเกงซักเสร็จรึเปล่าไม่สนแล้ว บิดแล้วก็ใส่เลย เข้าห้องเปลี่ยนกางเกงนอนต่อเลย

ติดใจน่ะสิ ตื่นเกือบทุกเช้าเลย ทำแล้วเพลินเชียวล่ะครับ

เหตุการณ์ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี ทุกอย่างเป็นไปตามปกติ ความสุข สนุกสนานที่เคยมีกับเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ก็ยังคงมีเหมือนเดิม ซ้ำยิ่งจะสนุกมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องมาจากความสนิทสนมซึ่งกันและกัน แต่ด้วยความเป็นคนใกล้ตัว กิน เล่น นอน อยู่บ้านเดียวกัน เวลาอยู่ด้วยกัน เล่นด้วยกัน จึงไม่ได้เกิดความรู้สึกในทางเพศแต่อย่างใด หากแต่ได้มีโลกส่วนตัวในตอนช่วงเช้าเท่านั้นที่เพิ่มเข้ามา ก็เหมือนเดิมแหละ ตรงตุ่มหน้าห้องอาบน้ำนั่นแหละ โล่งดี

ไปเล่นน้ำกันก็ยังไปกันอยู่นะ เป็นกลุ่มใหญ่ด้วย ไปกันที 6-7 คน จริง ๆ ไม่ได้คิดนะเรื่องเพศน่ะ แต่ก็เขินอยู่เหมือนกัน หลัง ๆ มาก็ได้ใส่กางกางในบ้าง กางเกงขาสั้นบ้าง แก้ผ้าบ้าง สลับกันไป แล้วแต่ว่าสถานการณ์จะพาไป แต่ก็ยังสนุกเหมือนเดิม ทางผู้หญิงก็เหมือนกันแหละ บางวันก็ถอด บางวันก็ใส่ แต่ผู้หญิงรุ่นราวคราวเดียวกับพวกผมสามคนนี่ไม่มีใครเค้าแก้ผ้ากันหรอก ใส่บนใส่ล่างกันทั้งนั้น จะถอดบ้างก็รุ่นเด็กประถมนั่นแหละ แต่จะไม่ค่อยถอดหมดนะ ส่วนมากก็เหลือแค่กางเกงใน ไอ้ถอดหมดก็แล้วแต่สถานการณ์ แต่ไม่ค่อยมีบ่อย แต่ก็อย่างที่บอกนั่นแหละ ว่าไม่ได้นึกถึงตรงนี้เลยสักนิดเดียว

พักหลังมา ช่วงที่ไปเล่นน้ำที่บึงด้วยกัน กลุ่มพี่ฟ้า มักจะบอกให้ผมถอดกางเกงในออก ไม่ต้องใส่หรอกเวลาเล่นน้ำน่ะ เห็นพูดอยู่บ่อยครั้งเหมือนกัน แล้วก็พูดทำนองที่ว่าจะได้ชักได้สะดวก จะได้รูดได้สะดวก ไอ้เราก็เอะ อะไรกัน พูดถึงเรื่องพวกนี้ ผมอายนะ เพราะมันเป็นเรื่องในช่วงเวลาส่วนตัวของผมเองเท่านั้น ผมก็ไม่ได้สนอะไรมาก วิ่งลงน้ำท่าเดียว เจ้าชัยเรอะ แก้ผ้าลุยเหมือนเดิม

จนเมื่อมาวันนึงตอนสาย ๆ กลุ่มพี่ฟ้าเรียกผมเข้าไปในห้องคอมพิวเตอร์ บอกว่าอยากดูอะไรมั้ย ผมบอกอะไรเหรอ พี่เค้าก็เรียกให้เข้ามานั่งดูหน้าทีวี ในห้องตอนนั้นมีอยู่แค่พี่ฟ้ากับพี่น้อยแล้วก็ผม ภาพที่ผมเห็นอยู่หน้าจอทีวีทำเอาผมหัวใจสั่นระรัว มือชา หน้าชา เขินอายอย่างบอกไม่ถูก ไม่กล้ามองหน้าพี่เค้าทั้งสองคนเลย ก็ไอ้ภาพที่ว่ามันคือตัวผมเอง พี่เค้าแอบถ่ายวีดีโอเอาไว้ ก็ไอ้ตอนเช้าที่ผมปฏิบัติภารกิจหน้าตุ่มนั่นแหละ โอ้โห เห็นหน้าตาผมชัดเจนเลย เห็นท่าทางการชักว่าวอย่างละเอียดเลย แล้วก็ไม่ได้แอบถ่ายแค่วันเดียวนะ ตั้งหลายวัน แหมเล่นเอาผมรู้สึกเกลียดการชักว่าวไปเลย ใครจะไปรู้ล่ะ ก็คิดว่าไม่มีใครตื่นมา ที่ไหนได้ อายสุด ๆ เลย

พี่ฟ้าเรียนอยู่ ม.5 กำลังจะขึ้น ม.6 พี่น้อยเรียนพาณิชยกำลังจะขึ้นปี 2 แล้วก็พี่ดวง คนนี้จบม. 6 แล้ว แต่พี่ดวงไม่ค่อยได้อยู่บ้านเท่าไหร่ สำหรับผมไม่ต้องนึกถึงไอ้หนุ่มวัยรุ่นอะไรนั่นหรอก ถ้าจะว่ากันจริง ๆ แล้วก็คือเด็กกะเปี๊ยกคนนึงนั่นแหละ วัยต่างกันมาก

พี่ฟ้ากับพี่น้อย มองหน้าผมแล้วก็หัวเราะชอบใจ บอกว่าเป็นงัย ทำแบบนั้นสนุกมั้ย แหมสาวใหญ่เลยนะ อะไรประมาณเนี้ย ผมล่ะก้มหน้าอย่างเดียว ผมรู้สึกว่าสิ่งที่ผมได้ทำลงไปมันเป็นสิ่งผิดอย่างมาก และก็รู้สึกผิดอย่างบอกไม่ถูกเหมือนกัน ส่วนเค้าน่ะเหรอ หัวเราะชอบใจกันใหญ่เลย
Admin
Admin
Admin

จำนวนข้อความ : 23
Join date : 12/06/2012

http://stormcreakerz.umbb.net

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน


 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ